ดอยหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ "เทียนนกแก้ว" ออกดอกสะพรั่ง รอนักท่องเที่ยวยลโฉม ชี้ มีที่เดียวในประเทศไทย เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวชมตั้งแต่ 1 พ.ย. นี้เป็นต้นไป...
วันที่ 18 ต.ค.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดอยหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ดินแดนที่ได้ชื่อว่า มีธรรมชาติที่งดงาม และไม่บอบช้ำ อากาศสุดบริสุทธิ์ เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสแล้ว โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวดอกเทียนนกแก้ว ที่มีหนึ่งเดียวบนยอดดอยหลวง กำลังออกดอกบานสะพรั่ง เป็นพันธุ์ไม้หายากชนิดหนึ่ง พบขึ้นตามใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ในป่าดิบเขา หรือบริเวณโขดหินปูนที่อยู่สูง จากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500-1,800 เมตร และพบได้เพียงที่เดียว คือ ที่ดอยหลวงเชียงดาว ดอกจะบานราว เดือนตุลาคม - พฤศจิกายน คนทั่วไปจึงไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะอยู่บนภูเขาสูง และดอกเทียนนกแก้ว มักขึ้นในพื้นที่ที่เป็นโขดหิน ดอกมีรูปร่างคล้ายนกแก้ว กำลังกางปีกบินดูสวยงามสะดุดตา ขนาดดอก 2-3 ซม. ดอกสีม่วงแกมแดงและขาว หรือสีชมพูเข้มแกมแดงและขาว กลางดอกมีแต้มสีเหลือง ดอกเป็นรูปหลอดกว้าง ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน สีชมพูอมขาว และมีจุดประสีม่วงแดง ออกดอกในราวเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนธันวาคม
ดอกเทียนนกแก้ว หนึ่งเดียวที่ดอยหลวง
การเดินทางไปดูดอกเทียนนกแก้วนั้นจะต้องเดินไปตามป่า ขึ้นไปยังยอดดอย ซึ่งเป็นเทือกเขาหินปูน มีแนวทอดยาวรวมทั้งพืชพันธุ์ดอกไม้ประเภทกึ่งอัลไพน์ เป็นพืชเฉพาะถิ่น หายาก มีอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม ดอกไม้ชนิดแรกที่จะเจอคือเทียนนกแก้วที่มีให้เห็นเฉพาะช่วงที่มีฝนหรือมีความชื้นสูงเท่านั้น
นายวิจิตร หลังสวน นายอำเภอเชียงดาว ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ขึ้นมาเที่ยวชมธรรมชาติที่งดงามที่สุดของเชียงใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว แต่นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นมาทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ดูแลพื้นที่อยู่ขอรับได้เพียงวันละ 150 คน เพื่อไม่ให้ระบบนิเวศต่างๆ บอบช้ำ โดยการจะเริ่มกิจกรรมชมความงดงามของดอยหลวงเชียงดาว ที่จะต้องเดินเท้าขึ้นไปชมความงดงามทางธรรมชาติ ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เป็นช่วงที่ดอกเทียนนกแก้ว ที่มีหนึ่งเดียวของประเทศกำลังออกดอก และยังมีพืชพรรณไม้ดอกที่หาชมได้ยาก เป็นพืชเฉพาะถิ่นอยู่หลากหลายบนดอยหลวงแห่งนี้ และหากโชคดีก็จะได้พบกับ ม้าเทวดา หรือกวางผา และนกที่หายากอยู่บนยอดดอยหลวงแห่งนี้ ถือเป็นธรรมชาติที่คงความงดงามตลอดและยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ด้วย
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/533194
0 comments:
Post a Comment